ประการแรก, พระกิตติคุณแห่งความมั่งคั่งทำให้ความสนใจไปถึงของขวัญของพระเจ้าเพื่อความสุข แทนที่จะดูที่พระเจ้าเอง มันปิดบังข้อพระคัมภีร์เช่น "นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีผู้ใดในฟ้าสวรรค์ นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ประสงค์สิ่งใดในโลก ร่างกายและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจและเป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์" (สดุดี 73:25-26) หรือข้อพระคัมภีร์อย่างนี้ "พระองค์ทรงสำแดงวิถีแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์ ต่อพระพักตร์พระองค์มีความยินดีเปี่ยมล้น ในพระหัตถ์ขวาของพระองค์มีความเพลิดเพลินอยู่เป็นนิตย์" (สดุดี 16:11) หรือข้อพระคัมภีร์อย่างนี้ "ยิ่งกว่านั้นข้าพเจ้าถือว่าทุกสิ่งเป็นการขาดทุน เพราะเหตุคุณค่าอันสูงยิ่งของการได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพราะเหตุพระองค์ข้าพเจ้ายอมขาดทุนทุกอย่าง และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนเศษขยะเพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์เป็นกำไร" (ฟีลิปปี 3:8) พระกิตติคุณแห่งความมั่งนี้เน้นแบบหนักมากว่าความสุขเพราะของขวัญเช่น สุขภาพ, ความมั่งคั่ง, และความเจริญ
ประการที่สอง, ไม้กางเขน และวัตถุประสงค์ของไม้กางนั่นถูกปิดบัง หรือชีวิตที่ถูกตรึงที่ไม้กางเขนถูกปิดบัง เปโตรสอนว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์ ไม่ใช่เพื่อว่าเราจะไม่ต้องทนทุกข์ แต่เพื่อสอนเราวิธีทนทุกข์ "เพราะพระเจ้าทรงเรียกพวกท่านเพื่อจุดประสงค์นี้ เพราะว่าพระคริสต์ทรงทนทุกข์เพื่อพวกท่าน พระองค์ทรงวางแบบอย่างแก่พวกท่าน เพื่อท่านจะได้ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์"(1 เปโตร 2:21) พระคริสต์เป็นตัวอย่างในการทนทุกข์ ดังนั้นให้ทำตามตัวอย่างที่ได้ทนทุกข์ และสำหรับเรื่องพระกิตติคุณแห่งความมั่งนี้ ผมไม่ได้ยินการสอนถึงการทนทุกข์กับพระคริสต์ แต่ผมได้ยินพวกเขาสอนว่า พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อให้เราสามารถมีชีวิตที่เรียบง่าย
ประการที่สาม, พระกิตติคุณแห่งความมั่งนี้ ละเว้นการเปลี่ยนแปลงระหว่างพันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่ จากศาสนา "มาเห็น" เป็นศาสนา "ไปบอก". นี่คือความหมายของผม ในพันธสัญญาเดิมราชินีแห่งเชบาต้องเดินทางไปหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อไปดูกษัตริย์โซโลมอน เพื่อที่จะชมความมั่งคั่งของโซโลมอน และสรรเสริญพระเจ้า นี่คือสิ่งที่เราเห็นในพันธสัญญาเดิม ไม่มีอะไรในพันธสัญญาใหม่เช่นนั้น การเน้นไปถึงพระมหาบัญชา และเปาโลพูดแบบนี้ "แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ถือว่าชีวิตของข้าพเจ้าเป็นสิ่งมีค่าสำหรับตัวเอง ขอแต่เพียงให้ข้าพเจ้าได้ทำหน้าที่ของข้าพเจ้าและทำพันธกิจที่ได้รับจากพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าให้สำเร็จ คือการเป็นพยานถึงข่าวประเสริฐที่สำแดงพระคุณของพระเจ้า"(กิจการ 20:24) อีกนัยหนึ่งคือว่า การประกาศข่าวดี เหมือนเป็นช่วงสงคราม แทนที่จะเก็บความมั่งคั่ง ให้สมบัติของเราไปทั่วโลกเพื่อประโยชน์ของเขา
ประการที่สี่, ความรักและความเชื่อถูกเข้าใจผิดโดยพระกิตติคุณแห่งความมั่งนี้ ให้ผมยกตัวอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมหมายถึงอะไร ใน 2 โครินธ์ 8:1-2 ชาวมาซิโดเนียเป็นแบบให้ชาวโครินธ์ เพราะพระคุณของพระเจ้าได้เสด็จมาถึงเขาและได้ตกบนพวกเขาและพาพวกเขาและพาออกจากความมืดสู่ความสว่าง พระคัมภีร์กล่าวว่าพวกเขายากจนมาก แต่ในความยากจนของพวกเขาพวกเขามีความสุขแม้ในความยากลำบาก
ดังนั้นจึงมีความยากจนที่ไม่ได้หายไปเมื่อประสบพระคุณของพระเจ้า มีความทุกข์และในความทุกข์นั้นมีความสุขเทออกสำหรับคนยากจนในกรุงเยรูซาเล็ม ใน 2โครินธ์ 8:8 เปาโลกล่าวว่าความทุกข์ยากนี้คือความรัก
ดังนั้นผมคิดว่าถ้าคุณสัญญากับ คริสตจักรว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเรียบง่าย และพวกเขาจะประสบความสำเร็จเพราะพระกิตติคุณ พวกคุณไม่เปิดทางให้รักแบบนั้น รักแม้ในความทุกข์ยาก รักแม้ในความยากจน ความสุขของเราไม่ได้อยู่ในการกำจัดความยากจนหรือความเจ็บปวด, ความสุขของเราอยู่ในพระคุณของพระเจ้า
สิ่งที่ห้าและสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องพูดก็คือ มาจากฟิลิปปี 1:20-21 พระสิริและความงามของพระคริสต์จะถูกบดบังหากคุณไม่ได้ทำให้ชัดเจนว่า วิธีหลักที่เราถวายเกียรติศักดิแด่พระคริสต์คือ การพอใจในพระคริสต์ มากกว่าสิ่งที่จะสูญเสียไป เปากล่าวว่า "ข้าพเจ้าคาดหมายและหวังว่าจะไม่ได้รับความละอายใดๆ เลย แต่โดยความกล้าหาญอย่างยิ่ง พระคริสต์จะทรงได้รับการยกย่องสรรเสริญในร่างกายของข้าพเจ้าในเวลานี้ดังเช่นที่เคยได้ตลอดมา ไม่ว่าจะโดยชีวิตหรือความตาย เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร"
พระเยซูคริสต์ได้รับเกียรติ เมื่อผมกำลังจะตาย เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างหายไป และสถานการณ์เช่นนี้ดีกว่าการมีทุกสิ่งในโลก หากคุณมีส่วนร่วมกับพระกิตติคุณแห่งความมั่ง ผมอธิฐานให้เพื่อว่าคุณเปลี่ยนชีวิตของคุณให้ยอมรับพระเยซูคริสต์เป็นสมบัติสูงสุดของคุณ
เทศน์โดย John Piper
แปลโดย Kaison Davis
https://www.desiringgod.org/interviews/five-ways-the-prosperity-gospel-makes-you-poor
ประการที่สอง, ไม้กางเขน และวัตถุประสงค์ของไม้กางนั่นถูกปิดบัง หรือชีวิตที่ถูกตรึงที่ไม้กางเขนถูกปิดบัง เปโตรสอนว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์ ไม่ใช่เพื่อว่าเราจะไม่ต้องทนทุกข์ แต่เพื่อสอนเราวิธีทนทุกข์ "เพราะพระเจ้าทรงเรียกพวกท่านเพื่อจุดประสงค์นี้ เพราะว่าพระคริสต์ทรงทนทุกข์เพื่อพวกท่าน พระองค์ทรงวางแบบอย่างแก่พวกท่าน เพื่อท่านจะได้ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์"(1 เปโตร 2:21) พระคริสต์เป็นตัวอย่างในการทนทุกข์ ดังนั้นให้ทำตามตัวอย่างที่ได้ทนทุกข์ และสำหรับเรื่องพระกิตติคุณแห่งความมั่งนี้ ผมไม่ได้ยินการสอนถึงการทนทุกข์กับพระคริสต์ แต่ผมได้ยินพวกเขาสอนว่า พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อให้เราสามารถมีชีวิตที่เรียบง่าย
ประการที่สาม, พระกิตติคุณแห่งความมั่งนี้ ละเว้นการเปลี่ยนแปลงระหว่างพันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่ จากศาสนา "มาเห็น" เป็นศาสนา "ไปบอก". นี่คือความหมายของผม ในพันธสัญญาเดิมราชินีแห่งเชบาต้องเดินทางไปหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อไปดูกษัตริย์โซโลมอน เพื่อที่จะชมความมั่งคั่งของโซโลมอน และสรรเสริญพระเจ้า นี่คือสิ่งที่เราเห็นในพันธสัญญาเดิม ไม่มีอะไรในพันธสัญญาใหม่เช่นนั้น การเน้นไปถึงพระมหาบัญชา และเปาโลพูดแบบนี้ "แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ถือว่าชีวิตของข้าพเจ้าเป็นสิ่งมีค่าสำหรับตัวเอง ขอแต่เพียงให้ข้าพเจ้าได้ทำหน้าที่ของข้าพเจ้าและทำพันธกิจที่ได้รับจากพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าให้สำเร็จ คือการเป็นพยานถึงข่าวประเสริฐที่สำแดงพระคุณของพระเจ้า"(กิจการ 20:24) อีกนัยหนึ่งคือว่า การประกาศข่าวดี เหมือนเป็นช่วงสงคราม แทนที่จะเก็บความมั่งคั่ง ให้สมบัติของเราไปทั่วโลกเพื่อประโยชน์ของเขา
ประการที่สี่, ความรักและความเชื่อถูกเข้าใจผิดโดยพระกิตติคุณแห่งความมั่งนี้ ให้ผมยกตัวอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมหมายถึงอะไร ใน 2 โครินธ์ 8:1-2 ชาวมาซิโดเนียเป็นแบบให้ชาวโครินธ์ เพราะพระคุณของพระเจ้าได้เสด็จมาถึงเขาและได้ตกบนพวกเขาและพาพวกเขาและพาออกจากความมืดสู่ความสว่าง พระคัมภีร์กล่าวว่าพวกเขายากจนมาก แต่ในความยากจนของพวกเขาพวกเขามีความสุขแม้ในความยากลำบาก
ดังนั้นจึงมีความยากจนที่ไม่ได้หายไปเมื่อประสบพระคุณของพระเจ้า มีความทุกข์และในความทุกข์นั้นมีความสุขเทออกสำหรับคนยากจนในกรุงเยรูซาเล็ม ใน 2โครินธ์ 8:8 เปาโลกล่าวว่าความทุกข์ยากนี้คือความรัก
ดังนั้นผมคิดว่าถ้าคุณสัญญากับ คริสตจักรว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเรียบง่าย และพวกเขาจะประสบความสำเร็จเพราะพระกิตติคุณ พวกคุณไม่เปิดทางให้รักแบบนั้น รักแม้ในความทุกข์ยาก รักแม้ในความยากจน ความสุขของเราไม่ได้อยู่ในการกำจัดความยากจนหรือความเจ็บปวด, ความสุขของเราอยู่ในพระคุณของพระเจ้า
สิ่งที่ห้าและสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องพูดก็คือ มาจากฟิลิปปี 1:20-21 พระสิริและความงามของพระคริสต์จะถูกบดบังหากคุณไม่ได้ทำให้ชัดเจนว่า วิธีหลักที่เราถวายเกียรติศักดิแด่พระคริสต์คือ การพอใจในพระคริสต์ มากกว่าสิ่งที่จะสูญเสียไป เปากล่าวว่า "ข้าพเจ้าคาดหมายและหวังว่าจะไม่ได้รับความละอายใดๆ เลย แต่โดยความกล้าหาญอย่างยิ่ง พระคริสต์จะทรงได้รับการยกย่องสรรเสริญในร่างกายของข้าพเจ้าในเวลานี้ดังเช่นที่เคยได้ตลอดมา ไม่ว่าจะโดยชีวิตหรือความตาย เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร"
พระเยซูคริสต์ได้รับเกียรติ เมื่อผมกำลังจะตาย เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างหายไป และสถานการณ์เช่นนี้ดีกว่าการมีทุกสิ่งในโลก หากคุณมีส่วนร่วมกับพระกิตติคุณแห่งความมั่ง ผมอธิฐานให้เพื่อว่าคุณเปลี่ยนชีวิตของคุณให้ยอมรับพระเยซูคริสต์เป็นสมบัติสูงสุดของคุณ
เทศน์โดย John Piper
แปลโดย Kaison Davis
https://www.desiringgod.org/interviews/five-ways-the-prosperity-gospel-makes-you-poor